น้ำยาล้างห้องน้ำ ประโยชน์ และพิษน้ำยาล้างห้องน้ำ

103061

น้ำยาล้างห้องน้ำ หมายถึง น้ำยาทำความสะอาดที่ประกอบด้วยกรด และสารลดแรงตึงผิวที่ใช้สำหรับทำความสะอาด และขจัดคราบสกปรกในห้องน้ำ

เนื่องด้วยปัจจุบัน ห้องน้ำหรือห้องสุขาของทุกบ้านเรือนจะก่อสร้างขึ้นจากปูนซีเมนต์ และมักปูพื้นด้วยกระเบื้อง ซึ่งวัสดุเหล่านี้ เมื่อสัมผัสกับน้ำเป็นเวลานานก็จะทำให้เกิดคราบสกปรกเกิดขึ้น หากปล่อยคราบไว้นานมักขัดทำความสะอาดยาก ดังนั้น ปัจจุบันจึงมีผลิตภัณฑ์สารเคมีที่สามารถช่วยขจัดคราบเหล่านั้นให้ง่ายขึ้น หรือมักเรียกทั่วไปว่า น้ำยาล้างห้องน้ำ นั่นเอง

ประโยชน์น้ำยาล้างห้องน้ำ
– ขจัดคราบตะไคร่น้ำ
– ขจัดคราบสนิม
– ขจัดคราบหินปูน
– ขจัดคราบตะกรัน
– ขจัดคราบสิ่งปฏิกูล
– ขจัดคราบสบู่ หรือ น้ำยาทำความสะอาดร่างกาย
– ขจัดคราบผงซักฟอก
– ขจัดคราบยาสระผม
– ขจัดคราบดำของสิ่งสกปรกตามร่องตื้น
– ช่วยฆ่าเชื้อโรค
– ป้องกันการลื่นของห้องน้ำ

คราบที่เกิดในห้องน้ำ ห้องส้วมส่วนใหญ่จะเป็นคราบของสบู่ คราบผงซักฟอก และคราบของเชื้อราที่เติบโตบนรอยคราบของคราบสบู่หรือคราบผงซักฟอก นอกจากนั้น หากมีแต่การใช้น้ำอย่างเดียวก็มักเป็นคราบของเชื้อรา และคราบตะกรันเกาะตามพื้นหรือผนัง คราบที่เกิดขึ้นเหล่านี้ล้วนมีสาเหตุมาจากการใช้น้ำเป็นหลัก

น้ำยาล้างห้องน้ำ

ตัวอย่างส่วนผสมน้ำยาล้างห้องน้ำ
น้ำยาล้างห้องน้ำเป็ด สูตร 1
– Hydrochloric Acid 8.5% w/w
– Ethoxylated Nonylphenol (NP-15) 3.6% w/w
– Ethoxylated Nonylphenol (NP-9.5) 2.0% w/w
– Sodium Dodecyl Benzene Sulfonate 1.31% w/w

น้ำยาล้างห้องน้ำเป็ด สูตร 2
– Hydrochloric Acid 15% w/w
– Ethoxylated Alcohol 2.0% w/w

น้ำยาล้างห้องน้ำวิกซอล
– Hydrochloric Acid 22% w/w
– Nonylphenol Polyethylene Glycol Ether 0.7% w/w

น้ำยาล้างห้องน้ำทุกชนิดจะมีส่วนประกอบหลักที่สำคัญ 1 ชนิด คือ กรดไฮโดรคลอริก (Hydrochloric Acid) ซึ่งเป็นกรดแก่ มีคุณสมบัติ ดังนี้
1. มีฤทธิ์กัดก่อนโลหะ
2. ทำปฏิกิริยากับโลหะหรือสารเคมีอื่นจะทำให้เกิดก๊าซไฮโดรเจนคลอไรด์ที่มีฤทธิ์ระคายเคืองต่อระบบหายใจ
3. เมื่อเปิดทิ้งไว้หรือขณะใช้จะเกิดไอระเหยของก๊าซไฮโดรเจนคลอไรด์ ซึ่งมีฤทธิ์เหมือนข้อ 2
4. ทำปฏิกิริยากับหินปูนทำให้เกิดก๊าซ CO2

วิธีใช้
1. สำหรับสูตรเข้มข้นที่มีกรดไฮโดรคลิอริก 15-22% ให้ผสมน้ำในอัตราส่วน 1:1 ก่อน แล้วค่อยเทราดตามผนัง พื้นห้องน้ำ หรืออุปกรณ์สุขภัณฑ์ และปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที จึงค่อยใช้แปลงขัดถู และล้างออก
2. สำหรับสูตรที่มีกรดไฮโดรคลิอริก น้อยกว่า 15% ให้ผสมน้ำในอัตรา 1:0.5 แล้วค่อยเทราดทิ้งไว้ 10 นาที ก่อนขัดล้างออกด้วยแปลง หรือไม่ต้องผสมก็ได้

พิษน้ำยาล้างห้องน้ำ
1. ไอระเหยของก๊าซไฮโดรเจนคลอไรด์มีฤทธิ์ทำให้เกิดการระคายเคืองต่อระบบทางเดินหายใจ
2. น้ำยาล้างห้องน้ำมีฤทธิ์เป็นกรด เมื่อสัมผัสกับผิวหนังในร่างกายจะทำให้เกิดการระคายเคือง ผิวหนังไหม้ ปวดแสบปวดร้อน และเกิดผื่นแดงหรืออาจเกิดแผลอักเสบได้ หากสัมผัสกับผิวหนังให้รีบล้างออกทันที
3. หากน้ำยาสัมผัสกับตา อาจทำให้ตาบอดได้ เมื่อสัมผัสจะต้องรีบล้างออกด้วยน้ำสะอาดทันที แต่หากล้างน้ำแล้วอาการไม่ดีขึ้น ให้รีบพบแพทย์ทันที
4. การรับประทานน้ำยาโดยตรงจะทำให้เยื่อบุในระบบทางเดินอาหารระคายเคือง เกิดอาการแสบร้อน ปวดท้องอย่างรุนแรง คลื่นไส้อาเจียน เยื่อบุเป็นแผล และอาจทะลุได้ แต่หากพบผู้ป่วยกลืนกิน ห้ามทำอาเจียน แต่ให้ดื่มนมหรือน้ำมากๆ พร้อมรีบนำส่งแพทย์ทันที

ข้อเสนอแนะ และข้อควรระวัง
1. ขณะใช้ควรสวมถุงมือยาง รองเท้าบูท แว่นตากันสารเคมี และสวมผ้าปิดจมูกทุกครั้ง เพื่อป้องกันการสัมผัสโดยตรง
2. ขณะใช้ ควรเปิดประตูหรือหน้าต่างออกให้หมด เพื่อให้อากาศถ่ายเทกลิ่น และไอระเหยออกไป
3. ขณะใช้ให้ใช้ร่วมกับแปลงถูทุกครั้ง เพราะจะช่วยกำจัดคราบสกปรกได้ง่ายขึ้น
4. การใช้แปลงพลาสติกจะทำให้ขนแปลงผุกร่อนง่าย จึงควรใช้แปลงทองเหลืองจะมีอายุใช้งานนานกว่า
5. ก่อนใช้ควรผสมน้ำ เพื่อให้ลดความเข้มข้นของกรดไฮโดรคลอกริก
6. ระวังอย่าให้น้ำยาสัมผัสกับเสื้อผ้า เพราะจะทำให้ผ้าเปื่อยยุ่ย และขาดได้ง่าย
7. ห้ามผสมน้ำยาล้างห้องน้ำกับสารฟอกขาวหรือสารอื่นๆที่เป็นด่างแก่
8. ห้ามรับประทานหรือสูดดมโดยเด็ดขาด
9. ให้เก็บไว้ที่สูง หรือที่มิดชิด เพื่อให้ห่างจากมือเด็ก
10. เมื่อเปิดฝาใช้แล้ว หลังการใช้ต้องปิดฝาให้สนิท
11. ให้เก็บในที่ร่ม ไม่ควรเก็บใกล้กับแหล่งความร้อนหรือสัมผัสกับแสงแดด
12. หากใช้หมดแล้ว ไม่ควรล้างเพื่อนำไปใช้บรรจุน้ำสำหรับการอุปโภค-บริโภค

ห้องน้ำ