หญ้าเทียม ประโยชน์ และวิธีปูหญ้าเทียม

11274

หญ้าเทียม เป็นวัสดุเลียนแบบหญ้าธรรมชาติที่ผลิตจากใยสังเคราะห์โพลีเอทิลีน นิยมใช้ปูพื้นในสนามกีฬาหรือนอกอาคารเพื่อตกแต่งสถานที่ จัดเป็นวัสดุที่มีความคงทนสูง อายุการใช้งานนาน ระบายน้ำได้ดี เหมาะสำหรับสนามกีฬาหรือสนามหญ้าในอาคารหรือสนามหญ้าในที่โล่ง โดยเฉพาะสนามกีฬาปิดที่ไม่มีแสงแดดส่องถึง แต่พื้นสัมผัสจะด้อยกว่าสนามหญ้าธรรมชาติ

ประวัติหญ้าเทียม
หญ้าเทียมถูกพัฒนาขึ้นครั้งแรกในปี ค.ศ. 1960 โดยบริษัท Monsanto และในปี 1965 ได้มีการใช้หญ้าเทียมปูแทนหญ้าจริงได้สำเร็จ สนามกีฬาดังกล่าวชื่อ Houston Astrodome ซึ่งสาเหตุที่ต้องเปลี่ยนจากหญ้าจริงมาเป็นหญ้าเทียมก็เพราะก่อนนั้นสนามกีฬามีการเปิดโล่ง แสงแดดส่องตลอดเวลา เป็นอุปสรรคต่อการเล่นกีฬาของนักกีฬาต่างๆ เจ้าของสนามจึงปรับปรุงโครงสร้างสนามด้วยการสร้างหลังคาปิดจนทำให้หญ้าจริงตายจากแสงแดดไม่ส่องถึง ดังนั้น เจ้าของสนามจึงหาวิธีแก้ไขโดยหันมาใช้หญ้าเทียมปูพื้นแทนทั้งหมด จากนั้น หญ้าเทียมจึงเริ่มนิยมใช้มากขึ้น โดยเฉพาะสนามกีฬาปิดที่มีร่มเงาตลอด

สนามหญ้าเทียมในช่วงแรกมีจุดด้อยหลายด้าน ซึ่งผู้ใช้งานสะท้อนให้เห็นว่าเป็นสาเหตุทำให้เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง จนกระทั่งในช่วงต้นทศวรรษ 1990-2001 John B Giraud ผู้ก่อตั้ง Target Technologies International (TTII) ได้ก่อตั้งสมาคมอุตสาหกรรมหญ้าเทียมขึ้น และได้ริเริ่มนำเม็ดทรายซิลิกา หรือที่เรียก crumb rubber โรยบนสนามหญ้าเทียม ซึ่งมีผลดีต่อการรักษาโครงสร้างหญ้าเทียม และนักกีฬา ทำให้ (TTII) กลายเป็นผู้ขายทรายซิลิก้ารายแรก

ต่อมาการใช้หญ้าเทียมได้พัฒนา และขยายการตลาดมากขึ้น โดยเฉพาะหลังจากที่ FIFA ได้ส่งเสริม และสนับสนุนการใช้สนามหญ้าเทียมในสนามกีฬาระดับนานาชาติมากขึ้น [1] อ้างถึงใน Robert D. Emmons, (2543)

ชนิดหญ้าเทียมตามลักษณะการใช้งาน
1. Landscape Purpose
หญ้าเทียม Landscape Purpose เป็นหญ้าเทียมที่มีลักษณะขนสั้น นิยมใช้เพื่อการตกแต่งบ้านเรือน ตกแต่งสวน หรือสนามหญ้าในบริเวณบ้าน ทำได้ทั้งในอาคาร และลานกลางแจ้ง วัสดุ และอุปกรณ์ที่ใช้ติดตั้งได้ง่าย

2. Sport Purpose
หญ้าเทียม Sport Purpose นิยมใช้เพื่อปูสนามกีฬาที่มีการใช้งานของนักกีฬาหรือมีกิจกรรมการกีฬาอย่างต่อเนื่อง เช่น สนามกีฬาฟุตบอล เป็นหญ้าเทียมที่มีลักษณะเหนียว คงทน ไม่ฉีกขาดง่าย อายุการใช้งานยาวนาน สามารถรองรับน้ำหนัก และการเสียดสีจากกิจกรรมของนักกีฬาได้ดี

ส่วนประกอบของหญ้าเทียม
ต้นหญ้าเทียมโดยทั่วไปจะมีความหนาประมาณ 1-5 มิลลิเมตร และยาวประมาณ 5-60 มิลลิเมตร โดยในการติดตั้งหญ้าเทียมจะมีการผลิตหญ้าเทียมมาเป็นม้วน แต่ละม้วนกว้างประมาณ 2-4 เมตร และยาวตามความต้องการของพื้นที่การใช้งาน ประกอบด้วยส่วนต่างๆ ดังนี้
1. ตัวหญ้า (Artificial Turf)
ตัวหญ้า ทำจากใยสังเคราะห์โพลีเอทิลีน มีคุณสมบัติในด้านความคงทนสูง ป้องกันรังสี UV ได้ดี ทำให้เส้นใยหญ้าไม่เสื่อมคุณภาพเร็ว

2. ยาง และทรายแทรกระหว่างตัวหญ้า (Infill)
ทรายซิลิกา (Silica Sand) มีรูปทรงกลม ไม่มีมุมหรือเหลี่ยมแหลมคม มีความยืดหยุ่นสูง ช่วยให้ลดอุบัติเหตุหรือการบาดเจ็บเมื่อสัมผัสกับทราย อีกทั้งช่วยป้องกันไม่ให้เส้นใยหญ้าฉีกขาดหรือลดความเสียหายของเส้นใยหญ้าจากการเหยียบย่ำของนักกีฬา ส่วนยาง (Rubber) ทำหน้าที่ช่วยให้เส้นใยหญ้าคืนสภาพหลังถูกเหยียบย่ำได้เร็ว และช่วยให้การสัมผัสของนักกีฬากับเส้นใยหญ้ามีความคล้ายคลึงกับหญ้าจริงมากขึ้น

3. ฐานหญ้าเทียม (Backing)
ฐานหญ้าเทียม ทำมาจากใยสังเคราะห์โพลีเอทิลีน ซึ่งใช้เส้นใยนำมาสานติดกันเป็นแผ่น ทำหน้าที่เป็นฐานของตัวหญ้า ฐานหญ้าเทียมนี้สามารถระบายน้ำได้

ปัจจัยต่อการเลือกหญ้าเทียม
1. น้ำหนักความทนทานของเส้นใยสังเคราะห์ (Dtex)
การใช้งานแต่ละประเภทจะมีค่าน้ำหนักความทนทานของเส้นใยสังเคราะห์ที่ต่างกันไป ยกตัวอย่างเช่น หญ้าเทียมสำหรับสนามฟุตบอลควรจะมีค่าอยู่ระหว่าง 8,800-15,000 หญ้าเทียมสำหรับกีฬากอล์ฟในสนามไดรฟ์จะมีค่าอยู่ที่ประมาณ 8,800 ส่วนสนามพัตต์กอล์ฟจะมีค่าประมาณ 6,600 หญ้าเทียมสำหรับกีฬา
เทนนิสจะมีค่าอยู่ที่ 6,600 ส่วนหญ้าเทียมที่ใช้ในการตกแต่งสถานที่จะมีค่าอยู่ระหว่าง 4,400–5,200 เท่านั้น

ค่าน้ำหนักความทนทานของเส้นใยสังเคราะห์จะมีค่ามากหรือน้อยจะขึ้นอยู่กับภาระของหญ้าเทียมที่ได้รับจากประเภทการใช้งานนั้นๆ ซึ่งในกีฬาฟุตบอลหญ้าเทียมจะมีการใช้งานอย่างหนักที่เกิดจากการเตะลูกฟุตบอล การเลี้ยงลูกฟุตบอล หรือการสไลด์ของตัวนักฟุตบอลซึ่งหญ้าจะรับภาระอย่างหนักในแต่ละกิจกรรมที่เกิดขึ้น ซึ่งจะแตกต่างจะกีฬาอื่นที่กิจกรรมที่เกิดขึ้นกับหญ้าเทียมจะน้อยกว่าทำให้ไม่จำเป็นต้องมีค่าน้ำหนักความทนทานของเส้นใยสังเคราะห์ที่สูงเกินความจำเป็น ซึ่งในปัจจุบันยิ่งค่าน้ำหนักความทนทานของเส้นใยสังเคราะห์มีค่าสูงราคาก็สูงขึ้นตามค่านี้เช่นกัน

2. ชนิดของเส้นใยสังเคราะห์
2.1 100% Thiolon Monofilament
100% Thiolon Monofilament เป็นเส้นใยสังเคราะห์ที่มีความละเอียดสูงความทนทานสูง และความยืดหยุ่นสูง สัมผัสของเส้นใยสังเคราะห์ให้ความรู้สึกใกล้เคียงกับหญ้าซึ่งเส้นใยสังเคราะห์ชนิดนี้จะมีราคาที่สูงที่สุดจากทั้งหมด 4 ชนิด

2.2 Monofilament
Monofilament เป็นเส้นใยสังเคราะห์ที่มีความทนทานและมีความยืดหยุ่นสูงแต่น้อยกว่าเส้นใยสังเคราะห์ชนิด 100% Thiolon Monofilament มีราคารองมาจากชนิดแรก

2.3 100% Thiolon Fibrillated
100% Thiolon Fibrillated เป็นเส้นใยสังเคราะห์ที่มีความละเอียดน้อยกว่าชนิดของ Monofilament ซึ่งจะทำให้สัมผัสของหญ้ามีความใกล้เคียงหญ้าธรรมชาติน้อยกว่า แต่ในด้านความทนทานกับความยืดหยุ่นนั้นใกล้เคียงกัน เส้นใยสังเคราะห์ชนิดนี้มีราคาต่ำที่สุดจากทั้ง 4ชนิดเส้นใยสังเคราะห์

2.4 100% Thiolon Fibrillated mixed Monofilament
100% Thiolon Fibrillated mixed Monofilament เป็นเส้นใยสังเคราะห์ที่ผสมผสานในสังเคราะห์ 2 ชนิด เข้าด้วยกันซึ่งจะมีสัมผัสหญ้าธรรมชาติใกล้เคียงกว่าชนิด 100% Fibrillated ด้านความทนทานกับความยืดหยุ่นของหญ้านั้นใกล้เคียงกัน

3. ความหนาของเส้นใยสังเคราะห์
ความหนาของเส้นใยสังเคราะห์ วัดค่าเป็นไมครอน (μm) ซึ่งขึ้นอยู่กับการใช้งานของหญ้าเทียม ถ้าเป็นการใช้งานหญ้าเทียมอย่างหนัก เช่น สนามฟุตบอล จะมีความหนามากที่สุดมีค่าประมาณ 230 – 320 μm สนามไดรฟ์กอล์ฟจะมีความหนาของเส้นใยสังเคราะห์ประมาณ 230 – 270 μm ส่วนประเภทของการใช้งานที่เบาลงมา เช่น สนามเทนนิสและสนามพัตต์กอล์ฟจะมีความหนาของเส้นใยสังเคราะห์ประมาณ 57 – 63 μm ซึ่งราคาของหญ้าเทียมนั้นราคาจะสูงขึ้นตามความหนาของเส้นใยสังเคราะห์

4. ความสูงของหญ้าเทียม
ความสูงของหญ้าเทียม วัดค่าเป็นมิลลิเมตร ซึ่งขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งานของหญ้าเทียม เช่น สนามฟุตบอลหญ้าเทียมจะมีความสูงอยู่ประมาณ 40 – 50 มิลลิเมตร สนามไดร์ฟกอล์ฟจะมีความสูงประมาณ 21.85 – 24.15 มิลลิเมตร สนามพัตต์กอล์ฟมีความสูงประมาณ 10 – 12 มิลลิเมตร สนามเทนนิสจะมีความสูงประมาณ 10 – 16 มิลลิเมตร เป็นต้น โดยราคาของหญ้าเทียมจะแปรผันตามความสูงของหญ้าเทียม

5. ฐานของหญ้า
ฐานของหญ้า ควรเลือกชนิดที่ทำจากวัสดุที่มีความแข็งแรง แผ่นฐานมีความยืดหยุ่นสูง และระบายน้ำได้ดี เช่น ทำมาจากใยสังเคราะห์โพลีเอทิลีน

ประโยชน์หญ้าเทียม
1. สภาพสนามมีความสม่ำเสมอ
ความสม่ำเสมอหรือความราบเรียบของสนามหญ้าเทียมจะสม่ำเสมอกว่าสนามหญ้าธรรมชาติ เพราะมีปัจจัยในเรื่องการยุบตัวของดินด้านล่างน้อยหรือความสม่ำเสมอของตัวหญ้าเทียมจะดีกว่าหญ้าธรรมชาติ เพราะหญ้าตามธรรมชาติอาจเติบโตไม่เท่ากัน แต่พื้นสัมผัสจะรู้สึกด้อยกว่าสนามหญ้าธรรมชาติ

2. ความทนทาน
สนามหญ้าเทียมสามารถทนต่อการเหยียบย่ำ ทนต่อการรับน้ำหนัก และแรงเสียดทานได้ดี ทำให้มีอายุการใช้งานยาวนานที่ไม่ต้องบำรุงรักษาหรือเปลี่ยนบ่อยครั้ง นอกจากนั้น ยังสามารถใช้งานในกิจกรรมกีฬาได้อย่างต่อเนื่องนานหลายสัปดาห์ติดต่อกัน แต่หากเป็นสนามหญ้าธรรมชาติ หญ้าจะเสียหายได้รวดเร็วหากใช้งานติดต่อกันเพียงไม่กี่วัน

3. ความเอนกประสงค์
สนามหญ้าเทียม มักใช้ในสนามปิดที่มีหลังคากันฝน ทำให้สนามสามารถใช้งานในหลากหลายด้าน ทั้งในด้านการกีฬา บันเทิง สันทนาการ การประชุม หรือกิจกรรมอื่นๆ

4. เหมาะกับชุมชนเมือง
ชุมชนเมืองบางแห่ง และหลายที่มักขาดแคลนพื้นที่ก่อสร้างสนามกีฬาธรรมชาติ เพราะมีการขยายตัวของเมืองสูง ราคาที่ดินเพิ่ม ทำให้มีความต้องการสถานที่เล่นกีฬาสูง สนามกีฬาจากหญ้าเทียมเป็นแนวทางเลือกอย่างหนึ่งที่ช่วยตอบสนองด้านการกีฬาได้ แม้อยู่ใจกลางเมืองใหญ่

5. ลดค่าใช่จ่าย ค่าบำรุงรักษา และมีความคุ้มทุน
สนามหญ้าเทียมไม่มีการบำรุงรักษาบ่อยเหมือนกับสนามหญ้าจริง เพราะตัวหญ้ามีความคงทน มีอายุการใช้งานนาน และสามารทำกิจกรรมต่างๆได้ต่อเนื่อง ทำให้เกิดรายรับมากกว่ารายจ่ายเมื่อเทียบกับสนามหญ้าจริง

การใช้หญ้าเทียมในสนามฟุตบอล
ตัวอย่างการติดตั้งหญ้าเทียมในสนามฟุตบอลขนาดกว้าง 20 เมตร และยาว 40 เมตร ซึ่งหญ้าเทียมที่นำมาติดตั้งนั้นมีลักษณะเป็นม้วนซึ่งแต่ละม้วนมีความกว้างอยู่ที่ 2 – 4 เมตร แต่ความยาวของม้วนจะขึ้นอยู่กับความต้องการของสนามที่จะไปติดตั้งซึ่งในการติดตั้งสนามฟุตบอลขนาด 20 เมตร x 40 เมตร 1 สนาม

ตัวอย่างการใช้หญ้าเทียมจำนวน 16 ม้วน
1. ม้วนหญ้าเทียมสีเขียวล้วนขนาดกว้าง 4 เมตร ยาว 20 เมตร จำนวน 8 ม้วน

2. ม้วนหญ้าเทียมขนาดกว้าง 4 เมตร ยาว 20 เมตร ซึ่งในความกว้าง 4 เมตรนั้น จะมีหญ้าเทียมสีขาวที่เป็นสีของสนามฟุตบอลอยู่ตรงกึ่งกลางของม้วนหญ้าเทียมซึ่งมีความกว้างของเส้นอยู่ 0.10 เมตร และพื้นที่ที่เหลืออีก 3.90 เมตร จะเป็นสีเขียวของพื้นสนามฟุตบอล ซึ่งม้วนหญ้าเทียมในลักษณะนี้จะใช้อยู่จำนวน 3 ม้วน ซึ่งจะติดตั้งในบริเวณเส้นบน เส้นกึ่งกลาง และเส้นด้านล่างของสนามฟุตบอล

3. ม้วนหญ้าเทียมขนาดกว้าง 2 เมตร ยาว 20 เมตร ซึ่งความกว้าง 2 เมตรนี้จะเป็นเส้นสนามสีขาวอยู่ 0.10 เมตร อยู่ตรงขอบของม้วนหญ้าเทียมและบริเวณที่เหลืออีก 1.90 เมตรจะเป็นสีเขียวของสนามฟุตบอล หญ้าเทียมลักษณะนี้ใช้จำนวน 4 ม้วน ในการติดตั้งจะหันด้านที่เป็นเส้นสีขาวติดกับสนาม เพื่อใช้เป็นเส้นข้างของสนามฟุตบอล

4. ม้วนหญ้าเทียมขนาดกว้าง 4 เมตร ยาว 30 เมตร ซึ่งในความกว้าง 4 เมตรนี้ จะเป็นเส้นสนามสีขาวอยู่ 0.80 เมตร อยู่ตรงขอบของม้วนหญ้าเทียม และบริเวณที่เหลืออีก 3.20 เมตร จะเป็นสีเขียวของสนามฟุตบอล ในการติดตั้งจะหันด้านที่เป็นสีเขียวชิดกับด้านบนหรือด้านล่างของสนามฟุตบอล เพื่อใช้เป็นเส้นแบ่งสนามฟุตบอลในกรณีที่มีหลายๆสนาม ซึ่งจะใช้หญ้าเทียมลักษณะนี้จำนวน 1 ม้วน

วิธีปูหญ้าเทียมในสนามฟุตบอล
1. ปรับพื้นดิน และบดอัดพื้นให้แน่น ก่อนจะเทคอนกรีตหรือเทด้วยยางมะตอยให้เรียบ ทั้งนี้ ก่อนปูแผ่นหญ้าเทียมจะต้องทำความสะอาดพื้น ห้ามมีเศษหิน เศษปูนหรือวัสดุใดก่อนปู เพราะจะทำให้พื้นหญ้าไม่ราบเรียบ และอาจเกิดอันตรายต่อนักกีฬาได้ง่าย
2. คลี่ม้วนหญ้าเทียม และตัดตามกว้างยาวตามต้องการปู
3. หากเป็นพื้นคอนกรีต พื้นยางมะตอย พื้นพลาสติกหรือใยสังเคาะห์ ให้ทากาวที่ฐานหญ้าเทียมเฉพาะมุมแผ่นหญ้าหรือตามขอบเป็นระยะ ก่อนปูทับพื้น และกดให้แน่น ส่วนระหว่างรอยต่อระหว่างแผ่นหญ้าเทียม ให้ทากาวบนแผ่นเชื่อมก่อน จากนั้น นำแผ่นหญ้าเทียมวางทับครึ่งหนึ่งเชื่อมติดกับอีกแผ่นที่วางทับแผ่นเชื่อมอีกครึ่งหนึ่งเช่นกัน ทั้งนี้ การต่อแผ่นหญ้าจะต้องให้แผ่นหญ้าชิดกัน โดยไม่ให้มีช่องว่าง
4. หากเป็นพื้นดินเหนียวบดอัดหรือพื้นดินทั่วไป เช่น นอกอาคาร ให้ปูโดยไม่ต้องทากาว แต่ทากาวเฉพาะแผ่นเชื่อม
5. หากต้องการตีเส้นสนามกีฬา ให้ใช้หญ้าสีขาวปูแทรกหรืออาจใช้วิธีทาสี ซึ่งจะประหยัดกว่า แต่รอยเส้นอาจลบเลือนได้เร็วกว่า
6. เททรายซิลิกาลงแผ่นหญ้าเทียมในปริมาณที่เหมาะสม หรืออาจโรยเพิ่มด้วยยางบด เพื่อเพิ่มความนุ่มมากขึ้น

ราคาหญ้าเทียมสำหรับสนามฟุตบอล

ชนิดหญ้าเทียม ราคา (บาท/ตร..)
• หญ้า 100% Thiolon Fibrillated 1 สี ความยาว 40-60 มิลลิเมตร ผลิตในประเทศจีน 800
• หญ้า 100% Thiolon Fibrillated Mixed Monofilament 2 สี ความยาว 40-60 มิลลิเมตร ผลิตในประเทศจีน 850
• หญ้า Monofilament 2 สี ความยาว 40-60 มิลลิเมตร เนื้อหญ้าเนเธอร์แลนด์ เย็บยางรองพื้นในประเทศจีน 900
• หญ้า 100% Thiolon Monofilament 2 สีมีเยื่อใยบริเวณโคนหญ้า ป้องกันการหลุดของเม็ดทราย และยาง ความยาว 40-60 มิลลิเมตร เนื้อหญ้าเนเธอร์แลนด์ เย็บยางรองพื้นในประเทศจีน 950
• หญ้า 100% Thiolon Monofilament 2 สีมีเยื่อใยบริเวณโคนหญ้า ป้องกันการหลุดของเม็ดทราย และยาง ความยาว 40-60 มิลลิเมตร ความทนทานของเส้นใยสังเคราะห์สูงสุดในทุกประเภท เนื้อหญ้าเนเธอร์แลนด์ เย็บยางรองพื้นในประเทศจีน 1,000

 

หมายเหตุ : เป็นราคารวมต่อตารางเมตรที่ประกอบด้วย ราคาตัวหญ้าเทียม ราคาการติดตั้ง ราคาทราย และยางที่ใช้โรยหลังการติดตั้งแล้ว

ที่มา : [1] 

ขอบคุณภาพจาก grassidea.com/, weaver2006.org/, grasssquare.com

เอกสารอ้างอิง
[1] ศุภกิจ กิจจนศิริ, 2554, ต้นทุนและผลตอบแทนของ-
การทำธุรกิจสนามฟุตบอลหญ้าเทียมใน-
อำเภอเมืองเชียงใหม่.